รูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานครที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
Item
ชื่อเรือง
รูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานครที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ชื่อเรื่องรอง
Model of Bangkok metropolitan primary school libraries supporting child-centered learning
ผู้แต่ง
อุบลรัตน์ สาลีผลิน
หัวเรื่อง
ห้องสมุดโรงเรียน -- ไทย -- กรุงเทพฯ -- การบริหาร
รายละเอียดอื่นๆ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอรูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานครที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยแบ่งรูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษาออกเป็น 6 ด้าน คือ ด้านอาคารสถานที่และครุภัณฑ์ ด้านบุคลากร ด้านงบประมาณ ด้านทรัพยากรสารสนเทศและเทคนโลยีสารสนเทศ ด้านบทบาทบรรณารักษ์ และ ด้านบริการและกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างเป็นนักการศึกษาด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ จำนวน 11 คน ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 205 คน เครื่องมือที่ใช้ในการ รวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS+ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบความแตกต่างของความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนตามชนาดโดยใช้ค่าสถิติเอฟ (F-test) วิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว One - Way analysis of variance เมื่อพบความแตกต่างจะวิเคราะห์รายคู่โดยใช้สถิติ LSD (Least Singnificant Difference)
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีประเด็นที่แตกต่างไปจากมาตรฐานห้องสมุดทั่วไปที่สำคัญคือ ขนาดห้องสมุคขั้นต่ำควรเป็นขนาด 4 ห้องเรียนหรือ
ประมาณ185 ตารางเมตร บรรณรักษ์ที่มีวุฒิบรรณารักษ์อย่างน้อยห้องสมุดละ 2 คน ห้องสมุด ควรใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติในการจัดเก็บและค้นคืนทรัพยากรสารสนเทศ ห้องสมุดควรมี
บริการอินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลจากภายนอกห้องสมุด การจัดห้องสมุดเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั้น บรรณารักษ์ต้องจัดห้องสมุดให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจและความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีการปฏิบัติจริงจนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
1. จัดนิทรรศการในบริเวณที่เห็นได้ชัดเจนในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง
2. มีทรัพยากรสารสนเทศที่เป็นวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผ่นวีดิทัศน์ (VCD) ซีดีรอม (CD-ROM) ที่มีเนื้อหาสาระสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้
เป็นเครื่องศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองอย่างอิสระ
3. มีการปรึกษากันระหว่างบรรณารักษ์และครูผู้สอนในการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่ม
ย่อยของ นักเรียนตามความเหมาะสมโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนคิดเอง ปฏิบัติเองให้มากที่สุด
4. จัดกิจกรรมสงเริมการอ่านที่หลากหลาย เพื่อสร้างเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน อันจะเป็นพื้นฐานของการเสาะแสวงหาร้อมูลต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าด้วย
ตนเองจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
5. มีมุมสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น มุมเล่านิทาน มุมสบาย สำหรับการอ่านอย่างอิสระ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดริเริ่ม สร้างสรค์ และคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับเป็นพื้นฐานในการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง อันเป็นรากฐานของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีประเด็นที่แตกต่างไปจากมาตรฐานห้องสมุดทั่วไปที่สำคัญคือ ขนาดห้องสมุคขั้นต่ำควรเป็นขนาด 4 ห้องเรียนหรือ
ประมาณ185 ตารางเมตร บรรณรักษ์ที่มีวุฒิบรรณารักษ์อย่างน้อยห้องสมุดละ 2 คน ห้องสมุด ควรใช้ระบบห้องสมุดอัตโนมัติในการจัดเก็บและค้นคืนทรัพยากรสารสนเทศ ห้องสมุดควรมี
บริการอินเตอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลจากภายนอกห้องสมุด การจัดห้องสมุดเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญนั้น บรรณารักษ์ต้องจัดห้องสมุดให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจและความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนทำกิจกรรมต่างๆ ที่มีการปฏิบัติจริงจนสามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองและนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
1. จัดนิทรรศการในบริเวณที่เห็นได้ชัดเจนในสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความสนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง
2. มีทรัพยากรสารสนเทศที่เป็นวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผ่นวีดิทัศน์ (VCD) ซีดีรอม (CD-ROM) ที่มีเนื้อหาสาระสอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ด้านต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้
เป็นเครื่องศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองอย่างอิสระ
3. มีการปรึกษากันระหว่างบรรณารักษ์และครูผู้สอนในการจัดหาทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่ม
ย่อยของ นักเรียนตามความเหมาะสมโดยเปิดโอกาสให้นักเรียนคิดเอง ปฏิบัติเองให้มากที่สุด
4. จัดกิจกรรมสงเริมการอ่านที่หลากหลาย เพื่อสร้างเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน อันจะเป็นพื้นฐานของการเสาะแสวงหาร้อมูลต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าด้วย
ตนเองจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
5. มีมุมสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น มุมเล่านิทาน มุมสบาย สำหรับการอ่านอย่างอิสระ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดริเริ่ม สร้างสรค์ และคิดอย่างมีวิจารณญาณสำหรับเป็นพื้นฐานในการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง อันเป็นรากฐานของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ผู้จัดพิมพ์/สำนักพิมพ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผู้ร่วมสร้างรรค์ ผู้ร่วมงาน
พวา พันธุ์เมฆา
นันทา วิทวุฒิศักดิ์
ฉวีวรรณ คูหาภินันทน์
วันที่ ปีที่จัดพิมพ์
2548
วันที่ผลิต วันที่จัดทำ
2021-08-09 06:57:07
วันที่ปรับปรุงข้อมูล
2021-08-09 06:57:07
ประเภท
thesis
รูปแบบ
application/pdf
แหล่งที่มา
วน 027.8222 อ833ร 2548
ภาษา
tha
ลิขสิทธิ์
มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
Degree (name, level, descipline, grantor)
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
ปริญญาโท
บรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
วันที่ใช้งาน
2548
isbn
974-373-529-1
คอลเลกชั่น
อุบลรัตน์ สาลีผลิน . (2548). รูปแบบห้องสมุดโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานครที่สนับสนุนการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ, คลังข้อมูลดิจิทัล สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ, accessed September 17, 2025, http://dlib.bsru.ac.th/s/library/item/963