ความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร

The Structural Relationship of Stakeholder Participation and the Effectiveness of the Administration in Schools under the Jurisdiction of Bangkok Metropolitan Administration

มณี เหมทานนท์

การบริหาร--สถานศึกษา

การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียกับการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร และ 3) เพื่อหาความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างการมีส่วนร่วมของ ผู้มีส่วนได้เสียกับประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงประเมินผล (Evaluation Research) ประกอบด้วย 2 ระเบียบวิธี คือ 1) ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ โดยใช้แบบสอบถามสำรวจความเห็นกับกลุ่มตัวอย่างครู จำนวน 395 คน ในสถานศึกษา 109 แห่ง โดยการสุ่มตัวอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของการวิจัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐานบรรยายและการวิเคราะห์สมการโครงสร้าง (SEM) ด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป และ 2) ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ ด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึกผู้บริหารสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเจาะจง จำนวน 10 ท่าน ผลการวิจัย พบว่า 1. ระดับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียต่อการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยรวมทุกด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านผู้บริหารมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ด้านครูและด้านบุคลากรบริการมีค่าเฉลี่ยเท่ากัน ส่วนด้านผู้นำชุมชนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ตามลำดับ 2. ประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาตัวแปรที่สังเกตได้ทั้งหมด 3 ตัวแปร พบว่า ทุกตัวแปรอยู่ในระดับมากโดยด้านขวัญกำลังใจของบุคลากรมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ ความพึงพอใจของชุมชน และด้าน ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดตามลำดับ 3. แบบจำลองสมการความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียกับประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร มีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในระดับดี เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ของตัวแปรแฝงและตัวแปรเชิงประจักษ์ พบว่า 1) การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายใน :ผู้ตาม มีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษา 2) การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายใน :ผู้นำ มีอิทธิพลทางตรงต่อการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายใน : ผู้ตาม และมีอิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษา 3) การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายนอก มีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลการบริหารจัดการสถานศึกษาในทางลบ เช่นเดียวกับบริบททางการเมืองและบริบททางเทคโนโลยี มีอิทธิพลทางตรงต่อการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียภายใน :ผู้ตาม และมีอิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษาในทางลบ จากข้อสรุป 1) และ 2) มีความสอดคล้องกันระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ขณะที่ 3) ไม่สอดคล้องกันเพราะการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่ามีอิทธิพลต่อกันในทางบวกข้อเสนอแนะจากการวิจัยมีดังนี้ สำนักการศึกษากรุงเทพมหานครที่เป็นต้นสังกัดและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในการบริหารจัดการศึกษาของกรุงเทพมหานคร ควรนำผล ที่ได้จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ไปศึกษาและพิจารณาประกอบเป็นนโยบายและแนวทางการบริหาร จัดการศึกษาพื่อให้สามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนาสถานศึกษาได้อย่างเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง อีกทั้งสถานศึกษาควรสร้างความรู้ความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย มีการติดตามประเมินผลเป็นระยะๆ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสถานศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานและนโยบายของสังกัดให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นที่ยอมรับของชุมชน ท้องถิ่น และสังคมตลอดไป

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

ดิลก บุญเรืองรอด

พรพิพัฒน์ เพิ่มผล

ปัญญา แก้วกียูร

2554

2021-08-09 06:57:07

2021-08-09 06:57:07

thesis

application/pdf

วน 371.2 ม124ค 2554

tha

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต

ปริญญาเอก

การศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

2554